ROUND()
|
สูตร
=ROUND(A1,1)
อธิบาย
ปัดตัวเลขของ A1 คือ 10.59 ให้เหลือทศนิยม 1 หลัก
ผลลัพธ์
10.6
|
ROUNDUP()
|
สูตร
=ROUNDUP(A1,1)
อธิบาย
ปัดตัวเลขของ A1 คือ 10.59 ขึ้นให้เหลือทศนิยม 1 หลัก
ผลลัพธ์
10.6
|
ROUNDDOWN()
|
สูตร
=ROUNDDOWN(A1,1)
อธิบาย
ปัดตัวเลขของ A1 คือ 10.59 ลงให้เหลือทศนิยม 1 หลัก
ผลลัพธ์
10.5
|
วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558
การใช้ฟังก์ชั่น ROUND
ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชั่น ROUND
วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558
การใช้ฟังก์ชั่น IF และ SUM
ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชั่น IF, SUM
IF()
|
สูตร
=IF(A1>100,1,0)
อธิบาย
ถ้า A1 >100 ถ้าจริงให้ส่งกลับค่าเป็น 1 ถ้าไม่จริงให้ส่งกลับค่าเป็น 0 , ซึ่ง A1 = 200
ผลลัพธ์
1
|
SUM()
|
สูตร
=SUM(A1:A5)
อธิบาย
หาค่าผลรวมของตัวเลขของ A1 ถึง A5
200+300+500+600
ผลลัพธ์
1,600
|
SUMIF()
|
สูตร
=SUMIF(A1:A5,">200")
อธิบาย
หาค่าผลรวมของตัวเลขของ A1 ถึง A5 ที่มีค่า
>200
300+500+600
ผลลัพธ์
1,400
|
SUMIFS()
|
สูตร
=SUMIFS(C1:C5,A1:A5,2015,B1:B5,">1")
อธิบาย
หาค่าผลรวมของตัวเลขของ C1 ถึง C5 ที่กำหนดเงื่อนไข
A1 ถึง A5 มีค่า 2015 และที่ B1 ถึง B5 มีค่า >1
คือ
600+150
ผลลัพธ์
750
|
วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558
การใช้ฟังก์ชั่น COUNT
ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชั่น COUNT
COUNT()
|
สูตร
=COUNT(A1:A5)
อธิบาย
นับจำนวนเซลล์ที่มีข้อมูลเป็นตัวเลขของ A1 ถึง A5
1+1+1+1+1+0
ผลลัพธ์
4
|
COUNTA()
|
สูตร
=COUNTA(A1:A5)
อธิบาย
นับจำนวนเซลล์ที่มีข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลขและข้อความของ
A1 ถึง A5
ผลลัพธ์
5
|
COUNTBLANK()
|
สูตร
=COUNTBLANK(A1:A5)
อธิบาย
นับจำนวนเซลล์ที่ไม่มีข้อมูลของ A1 ถึง A5
ผลลัพธ์
2
|
COUNTIF()
|
สูตร
=COUNTIF(A1:A5,">400")
อธิบาย
นับจำนวนเซลล์ของ A1 ถึง A5 ที่มีค่า
>400
คือ 500 และ 600
ผลลัพธ์
2
|
COUNTIFS()
|
สูตร
=COUNTIFS(A1:A5,">300",B1:B5,"<150")
อธิบาย
นับจำนวนเซลล์ของ A1 ถึง A5 ที่มีค่า
>300 และ B1 ถึง B5 ที่มีค่า <150 ซึ่งจะเห็นว่าที่ตรงทั้งสองเงื่อนไข
คือ 500
ผลลัพธ์
1
|
วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558
การใช้ฟังก์ชั่น AVERANGE
ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชั่น AVERANGE()
AVERAGE()
|
สูตร
=AVERAGE(A1:A5)
อธิบาย
หาค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่เป็นตัวเลขของ A1 ถึง A5
200+300+500+600 = 1,600
1,600 หารด้วย 4
ผลลัพธ์
400
|
AVERAGEA()
|
สูตร
=AVERAGEA(A1:A5)
อธิบาย
หาค่าเฉลี่ยของข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลขและข้อความของ
A1 ถึง A5
200+300+500+600+0 = 1,600
1,600 หารด้วย 5
ผลลัพธ์
320
|
วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558
ฟังก์ชั่น ที่ใช้บ่อยใน Excel 2010
จะเห็นว่าฟังก์ชั่น Excel 2010 มีมากมาย แต่ที่จะเป็นต้องรู้และใช้งานกันบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างในการนำมาใช้ในการทำงาน คือ
ฟังก์ชั่น
|
คำอธิบาย
|
AVERANGE()
|
หาค่าเฉลี่ยของตัวเลขในเซล์ที่เลือกเฉพาะที่ข้อมูลที่เป็นตัวเลข
|
AVERANGEA()
|
หาค่าเฉลี่ยของตัวเลขในเซล์ที่เลือกรวมทั้งข้อมูลที่เป็นตัวเลขเป็นไม่เป็นตัวเลข
|
COUNT()
|
นับจำนวนเซลล์ที่เลือกเฉพาะที่มีข้อมูลที่เป็นตัวเลข
|
COUNTA()
|
นับจำนวนเซลล์ที่เลือกที่มีข้อมูล
|
COUNTBLANK()
|
นับจำนวนเซลล์ที่เลือกที่ไม่มีข้อมูล
|
COUNTIF()
|
นับจำนวนเซลล์ที่เลือกที่ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดได้เกณฑ์เดียว
|
COUNTIFS()
|
นับจำนวนเซลล์ที่เลือกที่ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดได้หลายเกณฑ์
|
IF()
|
การส่งกลับค่าใดค่าหนึ่งค่าถ้าเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริง(TRUE) หรือไม่จริง(FALSE)
|
SUM()
|
หาค่าผลรวมของตัวเลขในเซล์ที่เลือก
|
SUMIF()
|
หาค่าผลรวมของตัวเลขในเซล์ที่เลือกที่ตรงกับเกณฑ์เดียวที่กำหนด
|
SUMIFS()
|
หาค่าผลรวมของตัวเลขในเซล์ที่เลือกที่ตรงกับหลายเกณฑ์ที่กำหนด
|
ROUND()
|
ปัดตัวเลขทั้งเลขหลักทศนิยมหรือเลขหลักอื่น ให้เหลือค่าเท่าจำนวนหลักที่ต้องการ
|
ROUNDUP()
|
ปัดตัวเลขขึ้นทั้งเลขหลักทศนิยมหรือเลขหลักอื่น ให้เหลือค่าเท่าจำนวนหลักที่ต้องการ
|
ROUNDDOWN()
|
ปัดตัวเลขลงทั้งเลขหลักทศนิยมหรือเลขหลักอื่น ให้เหลือค่าเท่าจำนวนหลักที่ต้องการ
|
วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558
คำนำ: โปรแกรม Excel 2010
Excel คือโปรแกรมกระดาษคำนวณในระบบ Microsoft Office ซึ่งคุณสามารถใช้สร้างและจัดรูปแบบสมุดงาน (กลุ่มของกระดาษคำนวณ) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราเรียกโปรแกรมในลักษณะนี้ว่าเป็น Spread Sheet การทำงานของโปรแกรม ใช้ตารางตามแนวนอน (rows) และแนวตั้ง (columns) เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถใช้ Excel เพื่อติดตามข้อมูล สร้างรูปแบบจำลองสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล เขียนสูตรเพื่อทำการคำนวณกับข้อมูลนั้นในลักษณะต่างๆ และนำเสนอข้อมูลในแผนภูมิต่างๆ อย่างมืออาชีพไฟล์ของ Excel เรียกว่า"สมุดงาน" (Workbook) และในแต่ละหน้าเรียกว่า"แผ่นงาน" (Worksheet) ในแต่ละแผ่นงานจะแบ่งออกเป็นตารางย่อยๆ ซึ่งประกอบไปด้วยช่องตารางจำนวนมาก ซึ่งเรียกว่า "เซลล์" (Cell) คือการตัดกันของแถว(row)และคอลัมน์(colum) ในแผ่นงานหนึ่งๆ และในสมุดงานหนึ่ง ๆ จะมีแผ่นงานได้จานวนมาก ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ จาก Excel 2000-2003 จนมาถึง Excel 2007-2010 ได้มีการเพิ่มจำนวนแถว และคอลัมน์ในแผ่นงานมากขึ้น ดังนี
Excel 2010 ทำให้สามารถวิเคราะห์ จัดการ และใช้ข้อมูลร่วมกันได้ด้วยวิธีการที่มีมากขึ้นกว่าเดิม และเครื่องมือการวิเคราะห์และการแสดงข้อมูลแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้นำข้อมูลมาใช้ในการนำเสนอและตัดสินใจด้วยความเข้าใจที่มากขึ้น และ Excel 2010 ยังเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้ด้วย และสามารถกรองข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยใช้หน้าที่การใช้งานของตัวแบ่งส่วนข้อมูลแบบใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์แบบเป็นภาพด้วย PivotTable และ PivotChart (ตามรูป)
และความสามารถโดดเด่นของ Excel 2010 ที่ได้ปรับปรุงจาก Excel 2007 คือ การกรองข้อมูลด้วยการพิมพ์ลงในช่อง Search ซึ่งจะง่ายและสะดวกในการค้นหาข้อมูลมาก แค่พิมพ์ข้อความลงไป โปรแกรมจะกรองข้อมูลที่มี content ตรงมาให้เลือก (ตามรูป)
ดูคุณลักษณะและคุณสมบัติใหม่ๆของ Excel 2010 ได้ที่
Excel 2010 ทำให้สามารถวิเคราะห์ จัดการ และใช้ข้อมูลร่วมกันได้ด้วยวิธีการที่มีมากขึ้นกว่าเดิม และเครื่องมือการวิเคราะห์และการแสดงข้อมูลแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้นำข้อมูลมาใช้ในการนำเสนอและตัดสินใจด้วยความเข้าใจที่มากขึ้น และ Excel 2010 ยังเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้ด้วย และสามารถกรองข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยใช้หน้าที่การใช้งานของตัวแบ่งส่วนข้อมูลแบบใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์แบบเป็นภาพด้วย PivotTable และ PivotChart (ตามรูป)
และความสามารถโดดเด่นของ Excel 2010 ที่ได้ปรับปรุงจาก Excel 2007 คือ การกรองข้อมูลด้วยการพิมพ์ลงในช่อง Search ซึ่งจะง่ายและสะดวกในการค้นหาข้อมูลมาก แค่พิมพ์ข้อความลงไป โปรแกรมจะกรองข้อมูลที่มี content ตรงมาให้เลือก (ตามรูป)
ดูคุณลักษณะและคุณสมบัติใหม่ๆของ Excel 2010 ได้ที่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)